การย้อมผ้าเป็นงานที่ดูเหมือนง่าย แต่ในความจริงมีปัจจัยทางเคมี โครงสร้างเส้นใย และความเหมาะสมของสีย้อมที่มีผลต่อการ “ติดหรือไม่ติด” ของสี หากคุณเคยย้อมแล้วพบว่า สีออกไม่สวย หลุดง่าย ซีดเร็ว หรือแทบไม่ติดเลย ปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากการเลือกสีย้อมไม่ตรงกับเส้นใย หรือขั้นตอนการย้อมไม่ถูกต้อง
พื้นฐานสำคัญที่สุดคือ
สีย้อมแต่ละชนิดถูกออกแบบให้เหมาะกับเส้นใยที่ต่างกันโดยเฉพาะ
ถ้าเลือกไม่ตรง ต่อให้ทำตามขั้นตอนเป๊ะ สีจะไม่ยอมเกาะกับเส้นใย
| ชนิดเส้นใย | สีย้อมที่ติดดีที่สุด | สีย้อมที่ใช้แล้ว “ไม่ติด” |
|---|---|---|
| ฝ้าย / ลินิน / เรยอน | Reactive / Direct / Vat Dye | Acid Dye, Basic Dye |
| ไหม / วูล | Acid Dye | Reactive, Vat, Disperse |
| โพลีเอสเตอร์ | Disperse Dye | Reactive, Acid, Direct |
| ไนลอน | Acid Dye | Reactive (ติดน้อย), Disperse |
| อะคริลิก | Basic Dye | Reactive, Acid, Direct |
สรุปง่าย ๆ
ถ้าสีย้อมไม่เหมาะกับเส้นใย = “ไม่ติด” หรือ “ติดแต่ซีดและหลุดง่าย”
แม้เลือกสีย้อมถูกแล้ว แต่ปัญหายังเกิดจากปัจจัยอื่นได้ เช่น
ผ้าใหม่มักมีสารเคลือบเพื่อช่วยให้ผ้านิ่มสวย แต่สารเคลือบนี้เป็น “ตัวกันสีไม่ให้ซึมเข้าเส้นใย”
ซักผ้าด้วยน้ำอุ่น + ผงซักฟอก
ล้างให้สะอาดก่อนย้อม
ผ้าฝ้ายควรซักล้างอย่างน้อย 1–2 ครั้งก่อนย้อม
สีย้อมแต่ละชนิดต้องการสภาวะกรด–ด่างต่างกัน เช่น
Reactive Dye ต้องการความด่าง (ใช้โซดาแอช)
Acid Dye ต้องการความเป็นกรดอ่อน ๆ
Disperse Dye ต้องใช้อุณหภูมิสูงและสารช่วยกระจายสี
ถ้า pH ไม่ถูกต้อง = สีไม่ทำปฏิกิริยากับเส้นใย
ตรวจสอบคำแนะนำของสีย้อม
ใช้สารช่วยติดตามสูตรที่ระบุ
สีย้อมบางชนิดต้องการความร้อนเพื่อเปิดผิวเส้นใยและช่วยให้สีซึมเข้าไป
ตัวอย่าง:
Disperse Dye (โพลีเอสเตอร์) ต้องการความร้อน 90–130°C
Acid Dye (ไหม/วูล) ต้องอุ่นน้ำให้ร้อนแต่ไม่เดือด
Reactive Dye (ฝ้าย) ต้องใช้น้ำอุ่นหรืออุณหภูมิห้อง + ด่าง
ถ้าอุณหภูมิต่ำเกินไป → สีไม่ติด หรือเกาะเฉพาะผิวนอก
เช่น
ผ้าฝ้ายต้องใช้ เกลือ + โซดาแอช
ไหมต้องใช้ กรดอ่อน ๆ เช่น น้ำส้มสายชู
โพลีเอสเตอร์ต้องใช้ สารกระจายสี (dispersing agent)
ถ้าสารช่วยติดไม่พอ สีจะไม่ซึมเข้าสู่เส้นใยเท่าที่ควร
การย้อมต้องให้เวลาสีย้อมจับตัวกับเส้นใย
หากเร่งขั้นตอนเกินไป สีจะติดแบบผิวเผิน
ถ้าใช้ผ้ามากเกินไป แต่สีน้อย → สีที่ได้จะซีด
หรือน้ำย้อมเจือจางมากเกินไป ทำให้สีไม่เข้มตามต้องการ
ตัวอย่าง:
Cotton 60% + Polyester 40%
→ ใช้ Reactive Dye อย่างเดียว สีจะติดเฉพาะส่วนฝ้าย
ผลลัพธ์คือ:
ผ้าออกมาเป็นสองโทน
สีไม่สม่ำเสมอ
ต้องเลือกสีย้อมหรือวิธี “สองเฟส” (ใช้ 2 ชนิดตามเส้นใย)
สีติดเฉพาะผิวนอก แล้วหลุดในครั้งแรกที่ซัก
สีซีดแม้จะย้อมนาน
ผ้าออกมาเป็นสีอ่อนมากแม้ใช้สีเข้ม
สีด่างไม่สม่ำเสมอ
โดยเฉพาะถ้าใช้กับผ้าสังเคราะห์ เช่น โพลีเอสเตอร์ → หากใช้สีย้อมทั่วไป จะ “ไม่ติดเลย”
อ่านป้ายฉลาก หรือทดสอบไฟเบอร์เบื้องต้น เช่น การเผาเส้นใย
ผ้าฝ้าย → Reactive Dye
วูล/ไหม → Acid Dye
โพลีเอสเตอร์ → Disperse Dye
อะคริลิก → Basic Dye
ซักกำจัดแป้งเคลือบ
ใช้น้ำยาช่วยติดสีตามชนิดสีย้อม
เป็นตัวแปรสำคัญที่สุดในการย้อมผ้าอย่างมืออาชีพ
ช่วยป้องกันการเสียของจำนวนมาก
สาเหตุที่ “ย้อมแล้วสีไม่ติด” มักเกิดจากสองปัจจัยหลัก คือ
เลือกสีย้อมผิดประเภท
ขั้นตอนย้อมไม่เหมาะกับเส้นใย
หากแก้โดยเลือกสีย้อมที่ตรงกับชนิดผ้า และควบคุมปัจจัยสำคัญทั้ง pH อุณหภูมิ สารช่วยติด และเวลา คุณจะได้ผ้าที่มีสีสด สม่ำเสมอ และติดทนนานอย่างมืออาชีพ
บริษัท ศิวะสัมพันธ์ จำกัด พร้อมเป็นพันธมิตรให้กับผู้ผลิตสิ่งทอทั่วประเทศ ด้วยสีย้อมคุณภาพและบริการให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ
📍 ศิวะสัมพันธ์ จำกัด
📞 02 4372117
🌐 จำหน่ายสีย้อมและเคมีภัณฑ์สิ่งทอคุณภาพ
🚚 บริการจัดส่งทั่วประเทศ
บริษัท ศิวะสัมพันธ์ จำกัด
ที่อยู่ : 1 ซ. 18 ถ.ท่าดินแดง-คลองสาน แขวงคลองสาน
เขตคลองสาน กทม. 10600